Wednesday, November 7, 2012

“นายพีระ ตันติเศรณี” นายกฯ นครสงขลา ถูกลอบยิงเสียชีวิต



       ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกลอบยิงเสียชีวิตแล้ว เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าสำนักงานภาคีคนรักสงขลา ถ.นครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา หลังจาก นายพีระ เสร็จจากการร่วมประชุม
      
       ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเบื้องต้นว่า กลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน ใช้อาวุธสงครามทั้งปืน เอ็ม 16 และคาร์บิน ยิงถล่มเข้าใส่ ก่อนจะใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา หลายเลขทะเบียน 7856 สงขลา เป็นพาหนะในการหลบหนี โดยขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุประสานกำลังเร่งให้สกัดจับคนร้ายบนเส้นทางออก นอกเมืองทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบนถนนลพบุรีราเมศวร์ ที่มุ่งสู่ อ.หาดใหญ่ และ จ.พัทลุง หรือถนนสายสู่ อ.สิงหนคร และ อ.จะนะ เป็นต้น


คนร้ายลอบยิง นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เสียชีวิต
รายงานข่าวแจ้งว่า  นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ถูกลอบยิงเสียชีวิต ค่ำวันนี้ (7พ.ย.) ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานภาคีคนรักสงขลา ถ.นครใน เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ
ทัง้นี้ ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนคาร์บิน และเอ็ม 16 ตก อยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก รายงานระบุกลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน  ก่อนจะใช้รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 7856 สงขลา เป็นพาหนะในการหลบหนี เบื้องต้นอยู่ระหว่างสกัดจับผู้ก่อเหตุ  และสันนิษฐานเบื้องต้น คาดว่าผู้ตายมีความขัดแย้งในเทศบาลนครสงขลา




ยิง'พีระ'นายกเล็กนครสงขลาดับ

คนร้ายซิ่งปิกอัพประกบยิง "พีระ ตันติเศรณี" นายกเล็กนครสงขลาเสียชีวิต คาดปมขัดแย้งในเทศบาล

              เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน ตำรวจ สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มนายพีระ ตันติเศรณี อายุ 53 ปี นายกเทศมนตรีนครสงขลา เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสงขลาฟอรั่ม เลขที่ 97 ถนนนครใน เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งเปิดเป็นศูนย์ประสานงานโครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา

              จากการตรวจสอบพบว่า นายพีระถูกยิงเสียชีวิตอยู่หน้าร้านดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 และคาร์บิน เข้าลำตัวและศีรษะจนพรุน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนทั้งสองชนิดตกอยู่เกือบ 50 ปลอก

              สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายพีระได้เข้าไปร่วมประชุมกับกลุ่มเอ็นจีโอเรื่องปัญหาสาร กัมมันตรังสี หลังได้เข้ายื่นหนังสือต่อผู้ตรวจการแผ่นดินที่ลงพื้นที่ติดตามปัญหาในวัน ดังกล่าว หลังประชุมเสร็จได้เดินออกมาขึ้นรถตู้ประจำตำแหน่ง ยี่ห้อโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน ทะเบียน นข 3336 สงขลา ที่จอดเยื้องออกไปหน้าร้าน ได้มีกลุ่มคนร้าย 3 คนขับรถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับมาจอดด้านหน้าร้านดังกล่าว ก่อนใช้อาวุธสงครามกราดยิงจนเสียชีวิตคาที่ ทั้งยังกราดยิงรถตู้ของนายพีระจนพรุนทั้งด้านหน้าและหลัง ก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

              หลังเกิดเหตุนายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าฯ สงขลา เดินทางมาร่วมตรวจสอบร่วมกับตำรวจ พร้อมสั่งการให้สกัดจับรถยนต์ของคนร้ายตามเส้นทางขาออกตัวเมืองสงขลาทุกเส้น ทาง รวมทั้งวิทยุประสานตำรวจทุกสถานีที่คาดว่าจะเป็นเส้นทางที่คนร้ายจะหลบหนี แต่ยังไร้วี่แวว


              สำหรับสาเหตุของการสังหารนายพีระที่เพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งนี้ในสมัยแรกนั้น ตำรวจมุ่งประเด็นไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น โดยเฉพาะการบริหารงานภายในของเทศบาลนครสงขลา ซึ่งก่อนหน้านี้รองนายกเทศมนตรีนครสงขลา ได้ขอลาออกยกชุด 4 คน เนื่องจากไม่พอใจการทำงานของนายพีระ ต่อมานายพีระได้สั่งพักราชการข้าราชการประจำของเทศบาลนครสงขลาอีก 8 คน และได้มีการยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมไปยังผู้ว่าฯ สงขลา ส่วนประเด็นการเคลื่อนไหวให้มีการขนย้ายสารกัมมันตรังสีของบริษัทหนึ่งนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ตัดประเด็นส่วนตัวทิ้งเช่นกัน 

              ขณะที่นายไกรเลิศ เรืองสงฆ์ ประธานสภาเทศบาลนครสงขลา เปิดเผยว่า เป็นเหตุที่อุกอาจมาก เนื่องจากจุดที่เกิดเหตุอยู่กลางเมือง อีกทั้งอาวุธที่คนร้ายใช้เป็นอาวุธสงคราม สาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่ามาจากเรื่องขัดแย้งทางการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่

              "ยอมรับว่า ที่ผ่านมาการบริหารเกี่ยวกับงานการเมืองท้องถิ่นในระดับพื้นที่มีหลายเรื่อง หลายประเด็นที่เกิดขึ้นและนำมาสู่ประเด็นความขัดแย้งในการบริหารงานภายใน ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นปมการสังหาร เบื้องต้นผมทราบรายละเอียดเป็นอย่างดีและพร้อมจะเข้าให้การต่อตำรวจ เพื่อติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้" นายไกรเลิศกล่าว

              มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงประเด็นสังหาร ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักเรื่องขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น แม้ช่วงนี้จะมีเรื่องการตรวจสอบเกี่ยวกับสารกัมมันตรังสีก็ตาม แต่ไม่น่าเป็นประเด็นรุนแรงถึงขั้นลอบสังหาร





0 comments:

Post a Comment