10 สิ่งที่ควรทำเมื่อคุณขับรถชน
เนื้อความ
จากข่าวดังที่ดาราหนุ่มขับรถชนคนตายนั้นกลายเป็นที่สนใจของคนทั่วไป
วันนี้เรามาดูกันว่า หากเราขับรถไปชนกับคนอื่น หรือถูกชนเราควรทำอย่างไร
1. หยุดรถ
ให้หยุดรถทันทีแม้ว่าจะเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อยเพียงใด
อย่าเลื่อนรถจนกว่าจะตกลงกันได้ว่า อุบัติเหตุเกิดขึ้นจากสาเหตุใด และ
ใครเป็นคนผิดหรือถ้าจะให้ดีควรรอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตีเส้น
อุบัติเหตุก่อน
แล้วจึงค่อยเลื่อนรถเว้นแต่จะเกิดอุบัติเหตุในที่เปลี่ยวในกรณีนี้ให้คุณจด
เลขทะเบียนรถคู่กรณีสี ยี่ห้อ ตำหนิ เวลาและสถานที่เกิดเหตุเอาไว้
แล้วขับต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงที่ชุมชน
หรือพบตำรวจอย่าจอดรถในที่เกิดเหตุเป็นอันขาดเพราะเคยมีเหตุการเจ้าของรถถูก
จี้ หรือถูกทำร้ายบ่อยๆเมื่อลงจากรถ หลังเกิดเหตุในที่เปลี่ยว
2.
อย่าพูดพล่อยการขอโทษของคุณอาจจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายอ้างขึ้นมาว่าคุณยอมรับ
เป็นฝ่ายผิด อีกทั้งไม่ควรกล่าวโทษอีกฝ่าย
เพราะคุณยังไม่รู้ท่าทีของอีกฝ่ายการกล่าวโทษอาจทำให้เหตุการเลวร้ายลงไปอีก
จำไว้เสมอว่าคุณไม่มีอำนาจในการตัดสินว่าใครผิดใครถูก
แม้แต่เวลาที่คุณคิดว่าคุณเป็นฝ่ายผิด คุณอาจจะไม่ผิดอย่างที่คิดก็ได้
3.ให้ข้อมูล ให้คุณให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณ ชื่อ- ที่อยู่เลขทะเบียนรถ และ ชื่อประกันที่คุณ มีแก่คู่กรณี หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ
4.หาข้อมูล
หลังจากคุณให้ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นแล้ว
คุณควรขอข้อมูลจากคู่กรณีด้วยเช่นเดียวกัน หากอีกฝ่ายไม่ให้
ก็ให้คุณจดเลขทะเบียน รูปพรรณของรถเอาไว้ อย่า
!พยายามยึดใบขับขี่ของคู่กรณีเพราะคุณอาจโดนข้อหาลักทรัพย์
5.แจ้งตำรวจหลังเกิดเหตุคุณควรแจ้ง
ตำรวจทุกครั้งแม้จะเป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กน้อย หรืออีกฝ่ายยอมรับผิดก็ตาม
เพราะมิฉะนั้นแล้วหากอีกฝ่าย
แจ้งความในภายหลังเจ้าหน้าที่จะสรุปว่าคุณหลบหนีและคุณจะเป็นฝ่ายผิดทุกกรณี
หากเจ้าหน้าที่ยังไม่มาให้คุณไปแจ้งความยังสถานีตำรวจ
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูที่เกิดเหตุและตีเส้นตำแหน่งรถอย่าเลื่อนรถจนกว่าเจ้า
หน้าที่จะมาถึงหากไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้
ให้คุณทำหนังสือยืนยันเหตุการที่เกิดขึ้นไว้เป็นหลักฐาน
โดยลงชื่อยืนยันไว้ทั้ง 2 ฝ่ายอย่าหลงเชื่อคู่กรณี
หากบอกว่าไม่ต้องแจ้งตำรวจ
เพราะอีกฝ่ายอาจปฏิเสธความรับผิดชอบในภายหลังในกรณีนี้หากคุณไม่มีเจ้า
หน้าที่เป็นพยาน หรือหนังสือยืนยัน
ตามกฏหมายจะถึงว่าคำพูดของคุณอ่อนหลักฐาน
6.หาพยาน
โดยสอบถามจากคนบริเวณที่เกิดเหตุอาจเป็นคนเดินถนน หรือรถคันข้าง
ๆหากเขายินยอมเป็นพยาน ให้คุณจดชื่อ-ที่อยู่เพื่อติดต่อเอาไว้
เพื่อในกรณีเหตุที่ซับซ้อน เช่นคุณกำลังเข้าถนน 4 เลน รถ 2
เลนแรกหยุดให้คุณแล้ว แต่คุณชนรถในเลนที่ 3
ในกรณีนี้คุณอาจเป็นฝ่ายผิดหากไม่สามารถหาพยานมายืนยันได้
7.ไปโรงพยาบาลหากคุณสงสัยว่าได้รับ
บาดเจ็บควรไปพอแพทย์เพื่อตรวจ
หากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นอันตรายและการเรียกร้องค่าเสียหายใน
ภายหลังจะยากขึ้นด้วย
8.แจ้งความ
ในกรณีที่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ทันที
แม้กฏหมายจะผ่อนปรนให้แจ้งความใน 6 เดือน เพราะ
บริษัทประกันส่วนใหญ่ไม่รับรองใบแจ้งความย้อนหลัง
9.ตกลงเงื่อนไขการจ่ายค่าเสียหายเรียกเจ้าหน้าที่ประกันภัยมาทันทีที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถแนะนำคุณได้ว่า ควรให้บริษัทชดใช้
หรือ
คุณควรจ่ายเอง เพราะเบี้ยประกันของคุณอาจเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ20
หากค่าชดใช้นั้นเกินกว่าเบี้ยประกัน ร้อยละ 200
(ตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน) หากต้องชดใช้ 2,100
บาทค่าเบี้ยประกันของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,200 บาท
คุณอาจจะประหยัดได้มากว่า หากจ่ายเงินชดใช้ 2,100 บาทเอง
10.อย่ารีบรอมชอม
หลังอุบัติเหตุหากอีกฝ่ายยอมรับเป็นฝ่ายผิด
และคุณสงสัยว่าคุณจะได้รับบาดเจ็บอย่าเพิ่งรีบรับข้อเสนอให้ยอมความ เพราะ
การบาดเจ็บของคุณอาจจะต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่าอาการของคุณรุนแรงเพียง
ใดหากคุณยอมความไปแล้วการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม
จะทำได้ยากขึ้นแต่ถ้าคุณไม่ได้รับบาดเจ็บและข้อเสนออีกฝ่ายเป็นที่น่าพอใจ
ก็ให้คุณยอมความได้
ทั้งนี้ทั้งนั้น จากสถิติอุบัติเหตุ
ร้อยละ 70 เกิดจากความประมาท
การระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำแนะนำทั้ง 10จะเป็นการดีที่สุด
การปิดฐานข้อมูล การออกจากโปรแกรม
11 years ago
0 comments:
Post a Comment