Friday, April 29, 2011

กลับรถใต้สะพาน โปรดระวัง

เรียนเพี่น้องทุกท่าน
สิ่งที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้  เป็นเรื่องที่น่าระทึก  ที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ   เชิญติดตามได้เลยครับ 

เมื่อคืนวันพุธ  หลังจากได้นัดหมายแผนการทำงานกับทีมงาน และ แยกย้ายกันกลับบ้าน  ตัวผมแวะเลยไปส่งแฟนกลับบ้าน แล้วออกจากบ้านแฟนมาเวลาประมาณ ทุ่ม
ขณะกลับรถใต้สะพานลอย  แถวพัฒนาการ-เทิดไท  มุงสู่ถนนเพชรเกษม-ราชพฤกษ์ เพื่อกลับบ้านบางใหญ่  
กลับรถ ตั้งลำสู่ทางตรง ยังไม่ทันเร่งความเร็วเลย  มีรถมอเตอร์ไซค์ ชะลอมาปาดหน้า  จอดรถขวาง  ชายคนหลังไม่สวมหมวกกันน๊อค เห็นหน้าได้ชัดเจน  เดินส่ายตรงมาที่รถผม  

“ ซวยแล้วกรู “  ความนึกคิดแบบนี้ ออกมาทันที  แล้วยื่นมือไป กด ล๊อคประตูทันที  
เหลือบสายตาไปที่กระจกมองหลัง    มีรถยนต์จอดต่อท้ายอย่างใกล้ชิด   ข่างประหลาดใจยิ่งนัก 

“ มรึงแน่นักเหรอ  ขับรถปาดหน้ากรู  มรึงลงมาเลย “ ว่าแล้วก็กระชากประตู  

เหอะๆๆๆ  มุกหมาๆ  ดีนะที่รู้ทันล๊อคประตูไว้ก่อน    ผม แง้มกระจกลงนิดหน่อย  แล้วถามว่า 
“ ผมปาดคุณที่ไหนเหรอ  ถนนมีช่องเดียวมาตลอดทาง 
“ มรึงไม่ต้องพูดมาก  ลงมาพูดกับกรูให้รู้เรื่อง  นักเลงมากนะมรึงเนีย “  สุภาพชนตะโกนมา พร้อมกระชากประตูรถอีกที 
แล้วถอยหลังไปหน่อย  ถลกชายเสื้อ เพื่อจะคว้าปืนที่เอว 

“ มรึงท่าจะบ้านะ “  คือคำตอบสุดท้ายที่ผมสนทนาด้วย    แล้วปิดกระจก
เหยียบเบรก เหยียบคันเร่งเต็มที่   มอเตอร์ไซค์ที่ขวางหน้า เหมือนรู้ตัว คนขับเริ่มขยับรถออกด้านซ้าย   แล้วผมก็เคลื่อนออกมาอย่างช้าๆ  เมิ่อขับผ่านมอเตอร์ไซค์ ก็เหลือบมองกระจกมองหลัง   แล้วก็ขับรถกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย 

ภาพที่ผมเห็นในกระจกมองหลังคือ แทนที่สุภาพชน จะวิ่งตามมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ตามหาเรื่องผมต่อ  กลับยืนคุยกับรถคันหลัง 

ผมสรุปได้เลยว่า  มันวางแผนมาปล้นครับ 
1.   ด้วยที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่กับแผนงาน  ผมรู้ตัวดีว่า ผมขับรถช้ากว่าปกติ  ไม่มีทางปาดหน้าใครแน่นอน ให้แซงตลอด อีกทั้งเป็นถนนเลนดียว เพื่อมุ่งสู่ที่กลับรถใต้สะพาน  ( เขาอาจจะคิดว่า คนขับเป็นผู้หญิง  เหยื่อที่หมายตาเนื่องจากมองจากระยะไกล เพราะผมขับช้าตราเต่าจริงๆ ) 
2.   เมื่อเพิ่งกลับรถ รถย่อมยังไม่มีความเร็ว เหมาะกับการปาดหน้าแล้วจอดขวาง  เพราะรถจะเบรกทัน  เขายังมีความปลอดภัย ลงมาเดินส่ายได้ต่อ 
3.   รถที่ตามประกบหลัง มีประโยชน์มาก  คือ 
3.1         หลอกลวงให้หลงผิด นึกว่ามีคนช่วย มีคนรู้เห็น 
3.2         หากเขาสามารถเปิดประตูรถผมได้  คนในรถคันหลัง คงจะย้ายมารถผมแน่นอน 
3.3          เขาจอดปิดท้ายผม  ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะถอยหลังหนี หรือ เพิ่มระยะทางเร่งความเร็วพุ่งชนได้เลย 
4.   บ้านเมืองนี้  คนพกปืนขี่รถจักรยานยนต์กันเกลื่อนเมืองขนาดนั้นกันเลยหรือ  มีปัญหา( ที่สร้างขึ้นมาเอง ) นิดหน่อย ปืนพร้อมใช้งานทันที 
5.   ผมคงไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง  ทำงานอาจจะยากขึ้นหน่อย ไม่เสี่ยง เลยปล่อยผมออกมาอย่างลอยนวล 

ที่บรรยายมานี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผม โดยที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นบนท้องถนนในตัวเมือง กทม.  
หากผมล๊อครถไม่ทัน อะไรจะเกิดขึ้น  
หากผมไม่กดคันเร่งจนมิด  เขาจะหลบมั๊ย  

หากผมขาดสติ  ตกใจเกินเหตุ  ผมคงไม่มีโอกาสมาเขียน mail ไม่มีโอกาสมาดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้กับทีมงานในวันนี้ ก็เป็นได้ 

ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้อ่านจนถึงบรรทัดนี้   ที่เล่ามาทั้งหมด เผื่อจะเป็นประโยชน์ในยามคับขันที่อาจจะเกิดขึ้นกับได้
ขอให้สิ่งศักด์สิทธิ์  ที่ทุกท่านนับถือ  จงบันดาลให้เรื่องแบบนี้ อย่าเกิดขึ้นกับคนที่เรารัก คนที่เรารู้จักเลยครับ 

ด้วยรักทุกท่าน

สมชาย คำเอื้อ

0 comments:

Post a Comment