10 สุดยอดมหาเศรษฐีใจบุญจีน สุขใจจากการให้ตามขนบขงจื่อ ~ อ่าน วารสาร

รายงานอันดับ 10 สุดยอดมหาเศรษฐีใจบุญจีน ประจำปี 2552/53 เพื่อต้อนรับกระแสกิจกรรมการกุศลในจีนของบิล เกตส์ และวอร์เรน บัฟเฟตต์ อันเป็นหนึ่งในกิจกรรม โครงการ "The Giving Pledge" ของมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ ในวันที่ 29 ก.ย.นี้

รายงานที่ เสนอนี้ เป็นผลการสำรวจปี 2553 ของสถาบันสำรวจจัดอันดับความมั่งคั่ง หูรุ่น (Hurun Report) ที่ได้จัดอันดับยอดการบริจาคเงินเพื่อการกุศลของเศรษฐีจีนอย่างต่อเนื่องมา 7 ปีแล้ว โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจถึงการทำบุญของเศรษฐีจีนหลายพันคน ว่าที่ผ่านมา นาย อี๋ว์ เผิงเหนียน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นคนแรกที่บริจาคเงินสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ ในปีที่แล้ว มีเศรษฐีจีน 3 คน บริจาคมากกว่า 100 ล้านดอลลาร์ และพบอีกว่า เป้าประสงค์ส่วนใหญ่ของการบริจาคของคนรวย ล้วนเพื่อการบรรเทาภัยพิบัติ และการศึกษา

ในการสำรวจนั้น นอกจาก อี๋ว์ เผิงเหนียน แล้ว ยังมี หวง หรูลุ่น นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ วัย 59 ปี ผู้บริจาคเงิน 315 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว เป็นเศรษฐีใจบุญอันดับสอง โดยเขาให้ความช่วยเหลือทุนการศึกษาในโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยทั่วจีน ทั้งนี้ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เขาได้บริจาคเงินไปแล้วมากกว่า 430 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ เฉิน ฟาซู่ นักธุรกิจเหมืองฯ วัย 50 ปี บริจาคเงิน 100 ล้านดอลลาร์ เป็นเจ้าสัวใจบุญบริจาคพันล้านรายที่สองต่อจาก อี๋ว์ เผิงเหนียน โดยเมื่อปีที่แล้ว เฉินประกาศว่า เขาจะอุทิศรายได้จากมูลค่าหุ้นของบริษัทจดทะเบียน Zijin Mining และ Tsingtao Brewery ไปก่อตั้งมูลนิธิการศึกษา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากมูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์

นอกจากนี้ เมื่อเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ผู้มั่งมีต่างช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ชิงไห่อย่างล้นหลาม ในจำนวนนั้น มีนักธุรกิจ 3 คน เฉา เต๋อวั่ง, หลู จื้อเฉียงและ หวัง เจี้ยนหลิง ที่อุทิศเงินช่วยมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์ แต่บุคคลเหล่านี้ยังไม่ได้อยู่ในรายงานการสำรวจชิ้นนี้ ซึ่งสำรวจเฉพาะช่วงเวลาระหว่างวันที่ 1 ม.ค 2552 ถึง 9 เม.ย 2553 ที่ผ่านมา

ในการสำรวจของสำนักฯ หูรุ่น ปี 2553 ยังพบว่า ผู้บริจาคส่วนใหญ่ เป็นชาวกว่างตง (กวางตุ้ง) ซึ่งมีจำนวนมากถึง 18 คน ตามด้วยชาวเจ้อเจียง มี 15 คน และฝูเจี้ยน มี 13 คน นอกจากนี้ อายุเฉลี่ยของคนใจบุญ อยู่ที่ 53 ปี สูงกว่าปีที่แล้ว 3 ปี มีสุภาพสตรีอยู่ในอันดับ 9 คน

รายชื่อผู้บริจาคเงินสูงสุด 10 อันดับแรก ในรอบปี 2552 ตามรายงานที่สำรวจตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2552 ถึงวันที่ 9 เมษายน 2553 (จาก www.hurun.net) ได้แก่

อันดับ 1 อี๋ว์ เผิงเหนียน นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้ง Pengnian Industries อายุ 88 ปี - บริจาค 910 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข และการศึกษา

อันดับ 2 หวง หรูลุ่น ผู้ ก่อตั้ง Jinyuan Group, the Golden Resources อายุ 59 ปี - บริจาค 425 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข และการศึกษา อีกทั้งบรรเทาภัยพิบัติ รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรม กับการกีฬา

อันดับ 3 จู เมิ่งอี ผู้ ก่อตั้ง Hopson Development, Guangdong Zhujiang Invest อายุ 51 ปี - บริจาค 170 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

อันดับ 4 เฉิน กวงเปียว ผู้ก่อตั้ง Jiangsu Huangpu Investment อายุ 42 ปี - บริจาค 130 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

อันดับ 5 เฉิน ฟาซู่ นักธุรกิจเหมือง ผู้ก่อตั้ง Zijin Mining อายุ 50 ปี - บริจาค 100 ล้านดอลลาร์ เพื่อสวัสดิการสังคม และการศึกษา

อันดับ 6 หนิว เกินเซิง ผู้ ก่อตั้ง Mengniu Dairy Industry (Group) Co Ltd อายุ 56 ปี - บริจาค 95 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

อันดับ 7 หยัง กั๋วเฉียง และครอบครัว นัก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้ง Country Garden Group อายุ 54 ปี - บริจาค 80 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

อันดับ 8 หลู่ จื้อเฉียง นัก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้ง Oceanwide Construction Group อายุ 59 ปี - บริจาค 60 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

อันดับ 9 หวัง เจี้ยนหลิน นัก ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้ก่อตั้ง Dalian Wanda Group อายุ 56 ปี - บริจาค 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

อันดับ 10 ต้วน หย่งผิง วิศวกร ไฟฟ้า เจ้าของกิจการ Subor Electronics Industry Corporation อายุ 49 ปี - บริจาค 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อกิจการสาธารณะสุข การศึกษา และบรรเทาภัยพิบัติ

หูรุ่นรายงานว่า ปัจจุบัน ประเทศจีนมีเศรษฐีเงินล้านโดยมีทรัพยสินมากกว่า 10 ล้านหยวน 875,000 คน และ มีเศรษฐีหลักร้อยล้านหยวนอยู่ 55,000 คน

หูรุ่นทำการสำรวจจากฐานข้อมูลของผู้ประกอบการ 3,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ประกอบการ 1,000 รายที่อยู่ในบัญชีผู้ร่ำรวยของหูรุ่นในปี 2552 ด้วย อีกทั้งอ้างอิงจากข้อมูลการรับบริจาคเงินของหน่วยงานองค์กรการกุศลอื่นๆ มากเท่าที่จะเก็บข้อมูลได้ ซึ่งยังมีการบริจาคอีกหลายกรณีที่อยู่เหนือการสำรวจนี้

สำหรับ การมีจิตกุศลของบรรดาเศรษฐีจีนนั้น อี๋ว์ เผิงเหนียน มหาเศรษฐีใจบุญอันดับหนึ่ง กล่าวว่า สำหรับคนในวัฒนธรรมขงจื่อ ซึ่งสั่งสอนเสมอให้ยื่นมือออกไปช่วยเหลือผู้คน เงินเป็นเพียงของนอกกาย และการให้กันและกันเท่านั้น ที่นำมาซึ่งความสุขในสังคม

ด้าน หวง หรูลุ่น ซึ่งติดอยู่อันดับสอง และได้รับการกล่าวขานว่าเป็น "นายคาร์เนกี้ของจีน" กล่าวแสดงความเห็นว่า การบริจาคเป็นสิ่งที่อยู่ในรากฐานวัฒนธรรมจีนอยู่แล้ว ภายใต้ขนบของขงจื่อ ซึ่งเน้นว่า "บุคคลจักประสบความสำเร็จด้วยการให้" และบรรดาผู้ประกอบการต่างก็ตระหนักดีว่า การบริจาคเป็นหน้าที่อย่างหนึ่งของการอยู่ร่วมในสังคม นอกเหนือไปจากการเสียภาษี และป้องกันรักษาสิ่งแวดล้อม

กู่ เซี่ยวหมิง นักมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น กล่าวว่า ขณะที่ตะวันตกขับเคลื่อนวัฒนธรรมการให้ผ่านศาสนาคริสต์ นิกายโปรเตสแตนท์ แต่ในประเทศจีน ลัทธิขงจื่อมีอิทธิพลต่อความคิดในการทำบุญบริจาคทานของผู้คน