Tuesday, January 24, 2012

วิธีกำจัด มด แมงสาบ หนู ยุง แบบธรรมชาติ นำไปใช้ได้ผล

วิธีกำจัดแมลงสาบ
วิธีการกำจัดแมงสาบแบบบ้าน ๆ (เน้นประหยัดและง่าย) 1

เอาขวดเหล้ากลม มาวาง  ทาน้ำมันพืชบางๆบริเวณปากขวด

แล้วเอาเศษอาหารที่มีกลิ่นหอมๆ ใส่ไว้ก้นขวด (จากการทดลองน้ำตาลปิ๊บดีสุด)

วางขวดเอียงประมาณ 70 องศา ให้ปากขวดแตะผนัง ตามซอกมืดๆในบ้าน

ตื่นเช้ามาคุณจะได้แมลงสาปอยู่ในขวด (วันแรกๆจะได้เยอะมาก)

ทำซ้ำเรื่อยๆ มันก็จะหมดไปเอง

วิธีการกำจัดแมงสาบแบบบ้าน ๆ (เน้นประหยัดและง่าย) 2

ส่วนประกอบ
1. ขวด เฮลบลูบอยที่หมดแล้ว 1 - 2 ขวด
2. น้ำมันหมู

วิธีทำ
1. เทน้ำมันหมูลงในขวด เฮลบลูบอย แล้วก็เคล้ากะให้น้ำมันหมูเกาะทั่วขวด

2. เอาน้ำมันหมูป้ายขอบในคอขวด กะให้กำลังลื่นพองาม

3. เอาไปตั้งไว้กลางห้องครัว หรือ แหล่งชุมนุม แมงสาบ (เฉพาะจุดที่พบบ่อยๆ)

4. ทิ้งเอาไว้ ประมาณ 8 ชม. แนะนำ >>ตั้ง<< ไว้ก่อนนอน

5. ตื่นมาตอนเช้าอย่าตกใจ แมงสาบจะยัวะเยียะ ไปทั้งขวด แต่ออกมาไม่ได้ เด็กและสตรีที่กลัวแมงสาบ ไม่ควรทำ เพราะอาจจะตกใจตายได้

6. เอาฝาเฮลบลูบอยปิดไว้ แล้วฝากให้รถขยะพาแมงสาบไปเที่ยว



วิธีกำจัดแมลงสาบ แบบอื่นๆ

วิธีกำจัดแมลงสาบ

          # แมลงสาบมักชอบอยู่ในมุมอับ ผลิตลูกหลานออกมาอย่างมากมาย วิธีกำจัดง่าย ๆ ก็คือ เอาน้ำตาลเคี่ยวกับน้ำให้มีกลิ่นหอมแล้วนำไปใส่ในกะละมังหรือภาชนะที่มีความ ลื่น เพราะเมื่อแมลงสาบได้กลิ่น มันจะลงไปกินแต่ไม่สามารถไต่ขึ้นมาได้ วิธีนี้ก็จะช่วยลดพลเมืองแมลงสาบได้มาก และถ้ากันมดและแมลงสาบเข้าไปในตู้เสื้อผ้า หรือ ตู้หนังสือ โดยใช้ก้านพลูและพริกไทยเม็ดบรรจุใส่ถุงผ้าเล็ก ๆ แล้วนำไปไว้ตามซอกของตู้เสื้อผ้า หรือ ตู้หนังสือ

          # นำขวดแก้วที่มีปากค่อนข้างกว้างใส่น้ำแกงจืดหรือน้ำต้มยำที่เหลือจากการรับ ประทานอาหาร (ใส่ประมาณครึ่งขวด) แล้วนำไปวางไว้บริเวณซอกหรือมุมห้องภายในบ้าน โดยวางให้ชิดติดกับผนังเพื่อล่อให้แมลงสาบที่ไต่ตามฝาผนังลงมากินน้ำแกงใน ขวด ทำให้ไม่สามารถปีนกลับขึ้นมาได้

# ใช้เหยื่อล่อแมลงสาบสำเร็จรูป ซึ่งบรรจุอยู่ในตลับที่มีช่องว่างเพื่อให้แมลงสาบมุดหัวเข้าไปกินเหยื่อ แล้วออกมาตายภายนอก (ไม่ตายค้างอยู่ด้านในตลับ) โดยนำไปวางไว้ในบริเวณที่มีแมลงสาบชอบเดินผ่าน อาทิ ตามซอกมุมอับต่างๆ หรือวางไว้ใกล้ท่อระบายน้ำทิ้ง เพื่อดักแมลงสาบที่ออกมาหากินยามค่ำคืน

          # ใช้บ้านแมลงสาบ ซึ่งเป็นกาวดักแมลงสาบที่ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์เลี้ยง มีประสิทธิภาพในการดักจับแมลงสาบได้ดี ใช้ง่ายเพียงแค่แกะกล่องกระดาษแล้วนำแผ่นเหยื่อไปวางไว้ตรงกลางแผ่นกาวและ พับเป็นรูปบ้าน นำไปวางไว้ตามห้องหรือซอกมุมที่มีแมลงสาบรบกวน เมื่อมีแมลงสาบมาติดจนเต็ม ให้พับบ้านแมลงสาบเข้าทุกด้าน แล้วนำไปทิ้งลงถังขยะ บ้านแมลงสาบมีอายุการใช้งานนานประมาณ 3-4 สัปดาห์

          # เอาปูนซีเมนต์ มาผสมกับอะไรหอมๆ น่ากิน เช่น นมผง โอวัลติน หรือถั่วบด ใส่ถาดวางใว้ในที่ที่แมลงสาบชอบเดินผ่าน แล้วก็เอาขันใส่น้ำวางไว้ข้างๆ เมื่อแมลงสาบได้ลิ้มรส อาหารผสมปูนซีเมนต์ และจิบน้ำเข้าไป ปูนซีเมนต์เมื่อผสมกับน้ำก็จะแข็งตัวในท้องของมัน


===============================
ยุง
วิธีการไล่ยุง
 แบบ ง่าย ๆ คือ หา การบูร มาห่อด้วยผ้าแล้วมัดไว้กับหลอดไฟฟ้าที่อยู่ภายใน บ้าน ความร้อนของไฟฟ้าจะทำให้การบูร ระเหย ออกไป และกลิ่นของการบูรจะช่วย ป้องกันยุง ไม่ให้มารบกวน

--------------------------------------------------------------------------------
มด
วิธีกำจัดมด
- หาเศษผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาตัดเป็นชิ้น ๆ ความยาวพอประมาณ ชุบกับน้ำมันเครื่องพอหมาดหรือจาระบี แล้วนำมาพันรอบขาตู้หรือโต๊ะ หรือจะใช้ปูนขาวใส่ภาชนะรองที่ขาตู้ก็ได้ และหากพบมดไต่ขึ้นมาตามรอยแตกร้าวของคอนกรีต ให้ใช้น้ำมันก๊าดเทลงไปในร่อง มดก็จะไม่โผล่หน้าขึ้นมาให้เรารำคาญใจอีกนาน

- ใช้แป้งฝุ่นสำหรับทาป้องกันเห็บหมัดของสุนัขหรือแมวมาโรยตามพื้นหรือบริเวณ ที่มดขึ้น เมื่อมดเดินผ่านก็จะเกิดการระคายเคืองและตายในเวลาอันรวดเร็ว หรืออาจฝานมะนาวเป็นแผ่นบางๆ มาไปวางในบริเวณที่มดขึ้นก็ได้

- หากพบว่ามีมดขึ้นอยู่ในขวดน้ำตาลหรือขนมปังที่ใส่อยู่ในกระป๋อง ให้ เราปิดฝาขวดหรือกระป๋องนั้นให้สนิท จากนั้นให้ออกแรงเขย่าเพียงเล็กน้อย แล้วเปิดฝาทิ้งไว้หรือนำไปผึ่งแดดสักครู่ มดตัวน้อยตัวนิดก็จะพากันหนีออกมาเอง

- ในกรณีที่พบรังมด ให้ใช้น้ำที่แช่หน่อไม้สดหรือหน่อไม้ดองเปรี้ยวราดไป ที่รัง มดจะอพยพไปอยู่ที่อื่นทันที แต่ถ้าต้องการกำจัดให้สิ้นซาก ให้ใช้การบูรและยาสูบอย่างละ 1 ส่วน นำไปแช่น้ำตั้งไฟให้เดือด จากนั้นเอาไปราดที่รัง มดก็จะตายและไม่กล้ามาทำรังอีกแน่ๆ


--------------------------------------------------------------------------------
งู
วิธีไล่งู

1. งู ที่กลัวเชือกกล้วยจะมีก็เฉพาะงูเหลือมเท่านั้น ซึ่งได้มีการพิสูจน์มาแล้ว ส่วนงูพิษยังไม่มีรายงาน การเลี้ยงสุนัข หรือห่านเป็นผู้ช่วยที่ดีที่สุด

2. ใช้ สารเคมีที่มีกลิ่นฉุน เช่น น้ำมันก๊าด(หาง่าย และไม่อันตรายกับคน และสัตว์เลี้ยง) ให้ฉีดพ่นหรือราดรอบๆ บริเวณที่ไม่ต้องการให้มีงูอยู่ ( ถ้าฉีดพ่นหรือราดน้ำมันก๊าดที่รังงูก็จะหนีไปเหมือนกันครับ)  และ ควรฉีดพ่นหรือราดน้ำมันก๊าดในช่วงที่ไม่มีเด็กๆ อยู่ เพราะงูจะออกมาจากที่หล่บซ่อน วิธีนี้เคยใช้จัดการกับงูเห่ามาแล้วใช้ได้ ลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะไม่ต้องฆ่าเขาด้วยแค่ไล่ไปเท่านั้น

3. ใช้ผงกำมะถัน(สีเหลืองๆ) มาผสมน้ำแล้วราดบริเวณรอบบ้าน  แต่วิธีนี้ต้องทำบ่อยหน่อย อย่างน้อย เดือนละครั้ง เพราะกำมะถันเจือจางแล้วงูก็เข้าอีก

--------------------------------------------------------------------------------
ตะขาบ
วิธีไล่ตะขาบ

- เลี้ยงไก่ในบริเวณบ้าน ( ถ้าสะดวก)

- ปลูกต้นเสลดพังพอนตัวเมีย รอบๆ  บริเวณบ้าน

- ใช้ "น้ำส้มควันไม้" เนื่องจากน้ำส้มควันไม้เข้มข้น มีส่วนผสมของน้ำมันทาร์ และยางเรซินอยู่มาก จะส่งกลิ่นเหม็นคล้ายควันไฟรบกวนสัตว์ และแมลงที่มีพิษต่างๆ รู้สึกจะมีขายตามร้านขายเคมีเกษตรครับ

--------------------------------------------------------------------------------
หนู
วิธีไล่หนู
แบบ ง่ายๆ และประหยัดเงินคือ นำ ไม้ยี่โถ ไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปบดเป็นผง เสร็จแล้วนำไปโรยตามซอกที่หนูชอบอยู่ เพียงเท่านี้หนูก็พากันขนย้ายครอบครัวหนีออกไปจากบ้านของคุณไปเลย
================================
อันที่อยากได้มาที่สุดคือปลวกครับ รบกับมันมานานยังไม่เคยชนะเลยครับ ท่านเอ รบกวนหน่อย แต่วิธีไล่ยุงน่าสนครับ ผมกำลังคิดว่าจะเอาตะไคร้หอมมาอัดเป็นแท่งไล่ยุง แบบยากันยุง แต่มาจากธรรมชาติน่ะครับ

ท่านลุงก็เอาน้ำส้มควันไม้ ส่วนที่มีทาร์เข้มข้นเอามารดราดรอบพื้นที่ที่ไม่ต้องการปลวกมารบกวน หรือ ถ้าพบจอมปลวก ก็เอาเหล็กแหลมหรือเครื่องมืออื่นใดก็ได้ที่สามารถเจาะเข้าไปในจอมปลวกได้ จากนั้นก็เอาเกลือแกง สัก1-2 กำมือผู้ใหญ่ ใส่ลงไป เกลือแกงจะระเหย ผมจำไม่ได้ว่าชื่อสารอะไร แต่มีผลทำให้ปลวกต้องอพยพย้ายรัง บางครั้งก็ใช้หินแก๊ส ใส่กระป๋องเติมน้ำแล้ววางในรูปลวกหรือไม่ก็ใช้ระบบชีววิถี เป้นการใช้เชื้อศัตรู เข้าทำลาย ดดยการใช้ผสมกับน้ำแล้วรดให้โดนตัวปลวก จากนั้นเมื่อปลวกเข้าไปสัมผัสกับพวกกันเองเชื้อโรคก็จะแพร่ระบาดในหมู่ปลวก ผมเองก็ลืมๆไป ข้อมูลไม่ชัดเจน แต่ว่ามีข้อมูลอยู่จำไม่ได้ว่ามันอยู่ตรงไหน มีหลายวิธี เอาไว้ค้นเจอจะเอามาเล่าสู่กันฟังครับ ..

- ฆ่า มด ปลวก ให้ใช้น้ำส้มควันไม้ ความเข้มข้น 100%พ่นราดบริเวณที่มีปลวก มด(เอใช้อยู่วิธีนี้ตายยกฝูง สัพเพสัตตา)
- ป้องกันปลวก มด และสัตว์ต่าง ๆ เช่น ตะขาบ แมงป่อง กิ้งกือใช้น้ำส้มควันไม้ ผสมน้ำ 50 เท่าพ่นราดบริเวณที่มีปลวกมด ทุก 7 ?15 วัน

 

Tuesday, January 17, 2012

คลังชงปรับค่าครองชีพขรก.แทนขึ้นเงินเดือน1.5หมื่น

นโยบายเศรษฐกิจ
คลังชงรัฐบาลใหม่อนุมัติแผนปรับค่าครองชีพ แทนการขึ้นเงินเดือน ข้าราชการ-ลูกจ้างรับประโยชน์ 2.77 แสนคน วุฒิปริญญาตรีขึ้นไปมีรายได้รวม 15,000 บาทต่อเดือน ชี้ไม่ให้เป็นภาระงบประมาณมากเกินไป คาดต้องจัดงบประมาณเพิ่มปีละ 15,240 ล้านบาท
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้เตรียมเสนอแผนการปรับขึ้นรายได้แก่บรรดาข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานประจำที่มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไปและมีรายได้ไม่ถึง 15,000 บาทต่อเดือนให้มีรายได้เป็น 15,000 บาทต่อเดือน เพื่อให้รัฐบาลชุดใหม่ได้พิจารณาตามนโยบายที่หาเสียงไว้
โดยแผนที่ว่านี้จะมีการปรับเพิ่มค่าครองชีพตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 เพื่อให้ค่าครองชีพบวกกับเงินเดือนรวมกันแล้วเป็นมีรายได้ 15,000 บาทต่อเดือน โดยที่ไม่ต้องปรับขึ้นอัตราเงินเดือน
อย่างไรก็ตาม หากเพิ่มในลักษณะของการปรับเพิ่มค่าครองชีพ จะเป็นภาระงบประมาณเฉพาะในส่วนที่เป็นเงินเพิ่มแต่ละเดือน เมื่อไหร่ที่ข้าราชการได้รับเงินเดือนถึง 15,000 บาทต่อเดือนแล้ว ก็จะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มส่วนนี้ วิธีการดังกล่าวสามารถทำได้รวดเร็ว โดยการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขระเบียบการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราว
แหล่งข่าว กล่าวว่า ยังมีอีกวิธี คือกรณีเพิ่มในลักษณะการปรับฐานเงินเดือนให้แก่ข้าราชการ ซึ่งจะต้องมีการปรับทั้งระบบให้เกิดความเท่าเทียมกัน กรณีนี้นอกจากเป็นภาระงบประมาณที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนแล้ว จะกระทบต่อการคำนวณเงินบำเหน็จบำนาญด้วย ซึ่งจะเป็นภาระงบประมาณในระยะยาว ที่จะต้องคำนวณภาระงบประมาณในภาพรวมทั้งหมดอีกครั้งด้วย วิธีนี้จะต้องมีการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาฯเกี่ยวกับเงินเดือน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบ สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
เพิ่มภาระงบปีละ 1.5 หมื่นล้าน
สำหรับแนวทางการเพิ่มค่าครองชีพ เพื่อให้รายได้เพิ่มเป็น 15,000 บาทต่อเดือนนั้น ภาครัฐจะมีรายจ่ายด้านงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกประมาณปีละ 15,240 ล้านบาท โดยคำนวณจากจำนวนข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานประจำวุฒิปริญญาตรีขึ้นไปที่ได้รับเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งไม่นับรวมบุคลากรขององค์กรอิสระ หน่วยงานศาลและพนักงานรัฐวิสาหกิจ เนื่องจากเป็นกลุ่มบุคลากรที่มีการบริหารจัดการด้านบุคลากรโดยหน่วยงานเอง
โดยข้าราชการและลูกจ้าง วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป ที่ได้รับเงินเดือน รวมเงินเพิ่มค่าครองชีพแล้วไม่ถึง 15,000 บาท มีจำนวนทั้งสิ้น 277,151 คน จะใช้งบประมาณเพิ่มเดือนละ 1,100 ล้านบาท หรือปีละ 13,200 ล้านบาท
ชี้ช่วยเพิ่มรายได้ ขรก.สูงถึง 46%
นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการปริญญาตรีที่จะบรรจุใหม่ในปี 2555 เพื่อทดแทนข้าราชการที่เกษียณอายุอีกจำนวน 28,199 คน ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเดือนละ 170 ล้านบาท หรือปีละ 2,040 ล้านบาท
การปรับขึ้นรายได้รอบนี้ ถือว่าปรับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หรือราว 46% จากฐานอัตราเงินเดือนปัจจุบันประมาณเดือนละ 9,000 บาท เป็น 15,000 บาท ก็ยอมรับได้ เพราะทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้รายได้ที่มีอยู่ไม่เพียงพอ เมื่อปรับแล้วจะกระทบต่อภาระผูกพันงบประมาณ แต่ก็ยังดีกว่าการปรับขึ้นอัตราเงินเดือน เมื่อมีการปรับฐานให้คนกลุ่มหนึ่ง ต้องมีการปรับขึ้นทั้งระบบ ภาครัฐก็จะสูญเสียงบประมาณมากขึ้น แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว ยอมรับว่าแผนการปรับเพิ่มรายได้เป็น 15,000 บาทต่อเดือน อาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อในระยะใกล้ เพราะที่ผ่านมาการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างสำหรับข้าราชการ มักจะเป็นฐานในการปรับขึ้นอัตราเงินเดือนพนักงานรัฐวิสาหกิจทั้งระบบ ตรงนี้จะเป็นสาเหตุหนึ่งของอัตราเงินเฟ้อ
ปัญหาที่ตามมาถ้ามีการปรับเงินเดือนข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจเขาก็จะเรียกร้องเหมือนกัน ถ้าต้องปรับในอัตราเท่ากัน ถือว่าเยอะมากเพราะฐานรัฐวิสาหกิจสูงอยู่แล้ว ก็จะเกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมา แหล่งข่าว กล่าว
สุชาติ หนุนใช้ระบบปรับค่าครองชีพ
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ทีมนโยบายเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อเสนอการปรับเงินเดือนข้าราชการที่จบปริญญาตรีเป็น 15,000 บาทต่อเดือน โดยจ่ายเป็นเงินค่าครองชีพชั่วคราวนั้น เป็นข้อเสนอหนึ่งที่พรรคจะนำไปพิจารณา หากนายกรัฐมนตรีคนใหม่เลือกที่ดำเนินการตามวิธีดังกล่าว ถือว่าอยู่ในเงื่อนไขที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ ส่วนระยะยาวจะต้องปรับเดือนข้าราชการทั้งระบบ เพราะหากกดรายได้ของคนในประเทศให้ต่ำอยู่อย่างนี้ จะไม่สามารถสร้างกำลังซื้อให้กับคนในประเทศได้
ผมเสนอให้มีการทำเวิร์คชอป การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศเป็น 300 บาทต่อวัน ส่วนการปรับเงินเดือนข้าราชการเป็น 15,000 ต่อเดือน จะมีการรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้องว่าจะปรับแบบใด คือ ปรับบัญชีเงินเดือนทั้งระบบเลย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาบ้าง เพราะต้องมีการแก้กฎหมาย หรืออาจใช้วิธีการเพิ่มค่าครองชีพชั่วคราวแทนก็ได้ แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ คนใหม่ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่ไปจะบอกว่าจะเลือกแนวทางไหน เพราะตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งรัฐบาลเลย นายสุชาติกล่าว
นายคณวัฒน์ วศินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดแนวทางการปรับเงินเดือนข้าราชการ ตามข้อเสนอของกรมบัญชีกลาง ต้องขอดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่เป้าหมายของพรรค คือ ต้องการให้คนที่จบปริญญาตรี มีรายได้รวม 15,000 บาทต่อเดือน ข้อเสนอของกรมบัญชีกลางก็เป็นข้อเสนอเพิ่มเติมที่พรรคจะนำมาพิจารณาเช่นกัน ต่อไปต้องปรับระบบผลตอบแทนให้คนจบปริญญาตรีมีรายได้ 15,000 บาทอย่างถาวร
เอกชนห่วงค่าจ้าง 300 บาทดันต้นทุนพุ่ง
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวถึงนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 บาทต่อวันของพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องนี้รู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะภาคเอกชนในประเทศและนักลงทุนต่างประเทศจำนวนมากกังวลว่า จะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น และทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่จะได้รับผลกระทบหนัก จนอาจต้องลดแรงงาน และล้มเลิกกิจการได้
เท่าที่คุยกับหอการค้าญี่ปุ่น บอกเลยว่า บริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่น จ่ายค่าแรงขั้นต่ำมากกว่า 300 บาทอยู่แล้ว แต่เขาเกรงว่า ถ้าขึ้นค่าแรงทันที 300 บาทจะกระทบต่อผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งส่วนมากเป็นเอสเอ็มอี และอาจทำให้กลุ่มนี้ต้องล้มหายตายจาก และบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นอาจต้องนำเข้าชิ้นส่วนจากแหล่งอื่นแทน รวมทั้งอาจย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น เช่น อินโดนีเซีย เพราะมีค่าแรงถูกกว่าไทยมาก นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากจะทำให้ผู้ประกอบการในประเทศ ได้รับผลกระทบแล้ว ยังจะทำให้การลงทุนใหม่ๆ จากต่างประเทศไม่เข้ามาลงทุนในไทยเพราะไม่มีความคุ้มค่า
ขณะนี้หอการค้าไทย ได้มอบหมายให้ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดำเนินการสำรวจสมาชิกหอการค้าไทย ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ และเอสเอ็มอี ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากมีการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาททันที รวมถึงแนวทางที่จะให้รัฐบาลช่วยเหลือ เพื่อจะได้นำข้อมูลที่ได้ไปหารือกับรัฐบาลใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากนโยบายดังกล่าว หรือหาแนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมมากกว่านี้